เตรียมตัว ต้อนรับเปิดเทอม
โพสเมื่อ : วันที่ 4 มีนาคม 2551
เอกสารแนบ :
         ใกล้จะเปิดเทอมคุณหนูก็ต้องเตรียมตัวเข้าโรงเรียน แต่ปัญหาส่วนใหญ่จะตกกับคุณแม่ เนื่องจากต้องพิจารณาว่าลูกพร้อมจะไปโรงเรียนหรือยัง โรงเรียนอะไรดี จะติดโรคจากโรงเรียนหรือไม่ บทความนี้จะเป็นแนวทางในการเตรียมความพร้อมของเด็ก

เมื่อเปิดเทอมเด็กบางคนอาจจะดีใจที่ได้กระเป๋าใบใหม่ เด็กบางคนยังเล็กเกินกว่าจะจัดตารางสอน บางคนก็เกียจคร้านในการจัดตารางสอนทำให้ต้องแบกกระเป๋าหลังแอ่น แต่ไม่ทราบถึงผลเสียระยะยาวของการแบกน้ำหนักที่มากเกินไป นอกจากนั้นผู้ปกครองยังต้องสำรวจการจราจร ความปลอดภัยต่างดังต่อไปนี้

1. การใช้ยา เด็กบางคนที่มีโรคประจำตัวต้องรับประทานยาเป็นประจำท่านผู้ปกครองต้องสอบถามนโยบายของโรงเรียนเกี่ยวกับการให้ยา โรงเรียนมีพยาบาลคอยดูแลเด็กที่เจ็บป่วยหรือไม่ หากทางโรงเรียนมีเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบหรือพยาบาลที่รับผิดชอบท่านต้องให้รายละเอียดเป็นหนังสือเกี่ยวกับยาที่เด็กใช้เป็นประจำ เช่น ชื่อยา ขนาดที่รับประทาน รับประทานวันละกี่ครั้ง ยานี้ใช้รักษาโรคอะไร ผลข้างเคียงของยา แพทย์เจ้าของไข้ เบอร์โทรศัพท์ของท่านผู้ปกครองและเบอร์ของแพทย์ และท่านควรจะให้ยากับเจ้าหน้าที่โดยที่ไม่ต้องแกะซองยา สำหรับเด็กท่านผู้ปกครองต้องอธิบายเกี่ยวกับยาให้เด็กทราบและห้ามเด็กรับประทานยาของเด็กอื่น นอกจากนั้นท่านจะต้องเตรียมยาไว้ให้พร้อมอย่าให้หมด

2. ตรวจน้ำหนักกระเป๋าของเด็ก น้ำหนักที่มากเกินไปอาจจะทำให้เกิดโรคปวดหลังและปวดคอเรื้อรัง คำแนะนำการเลือกกระเป๋า
  • น้ำหนักกระเป๋าที่เหมาะสมประมาณ 5-10%ของน้ำหนักตัวเด็ก น้ำหนักที่มากเกินไปจะทำให้เด็กเอนไปข้างหน้า
  • ให้ใช้เป้สะพายหลังแทนกระเป๋าที่ใช้มือถือ เพราะการใช้มือถืออาจจะทำให้ปวดไหล่และคอ
  • ซื้อเป้สะพายหลังที่สามารถปรับให้เหมาะสมกับตัวเด็ก

  • 3. สำรวจเส้นทางที่จะไปโรงเรียน ไม่ว่าเด็กจะไปโรงเรียนโดยรถโดยสารประจำทาง หรือรถยนต์ หรืออาจจะเดินไป มองทางเลือกเส้นทางอื่นหากเกิดปัญหากับเส้นทางปกติ สอนให้เด็กคำนึงถึงความปลอดภัย เช่นการรัดเข็มขัดนิรภัย การใส่หมวกกันน็อก การขามถนน ไม่โหนรถโดยสารประจำทาง ไม่ขับขี่รถขณะมึนเมาหรือพูดโทรศัพท์

    หลังเลิกเรียนเด็กควรทำอะไร
    คุณพ่อแม่ที่เวลาเลิกงานและเวลาเลิกเรียนของลูกห่างกันหลายชั่วโมง ทำให้เกิดความเป็นห่วงเด็ก ทำให้พ่อแม่บางคนต้องเร่งรีบเลิกงานมารับเด็ก เพราะเด็กเล็กก็ไม่สามารถช่วยตัวเอง ส่วนเด็กโตหากอยู่บ้านคนเดียวก็อาจจะมีปัญหา พ่อแม่มักจะเลือกโรงเรียนที่มีหลักสูตรการเรียนที่ดี แต่ไม่ค่อยได้คำนึงถึงเวลาหลังเลิกเรียนระหว่างรอพ่อแม่มารับว่าทางโรงเรียนจัดกิจกรรมอะไรไว้ให้เด็กบ้างดังนั้นโรงเรียนที่ดีควรจะมีโครงการหลังเลิกเรียนให้เด็กเพื่อความพอใจของพ่อแม่รวมทั้งเด็กด้วย โครงการหลังเลิกเรียนอาจจะอยู่ที่โรงเรียนบางแห่ง แต่อาจจะอยู่อีกสถานที่อีกแห่งหนึ่งก็ได้เช่นสมาคมกีฬา สมาคมดนตรี YMCA เป็นต้น

    วิธีการเลือกโครงการมีดังนี้
    1. โครงการนั้นได้รับการรับรองจากหน่วยงานหรือไม่ หากโครงการนั้นได้รับการรับรองจากหน่วยงานรัฐก็แน่ใจได้ระดับหนึ่งถึงความปลอดภัย และระบบการตรวจสอบเช่น สถานที่ วัสดุ อุปกรณ์ เจ้าหน้าที่
    2. หากสถานที่ตั้งโครงการอยู่นอกโรงเรียนท่านต้องเตรียมการเดินทางให้เด็กด้วย
    3. สอบถามถึงนโยบายการรับเด็ก การให้เด็กออกจากโครงการ รวมทั้งหากมาสายจะมีผลอย่างไร
    4. ตรวจดูอาคารสถานที่ว่าปลอดภัยหรือไม่ การซ่อมบำรุงดีหรือไม่ ความสะอาดเป็นอย่างไร
    5. ให้สัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ที่ทำงาน ดูอัตราส่วนระหว่างเจ้าหน้าที่และเด็ก
    6. ให้สอบถามถึงวินัยของสถานที่ว่าเข้มงวดเพียงใด
    7. ให้ถามถึงการจับกลุ่มของเด็กจะจัดตามอายุ ส่วนสูง น้ำหนัก หรือตามชั้นเรียน